ในบรรดาเกมคาสิโนทั้งหมด แบล็คแจ็คเป็นเกมที่ให้อัตราต่อรองที่ดีที่สุดแก่ผู้เล่น แต่ถึงกระนั้นแล้ว ผู้เล่นก็ยังคงค้นหาวิธีที่จะได้เปรียบจากทางคาสิโนอยู่ตลอดเวลาแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม แต่งานวิจัยใหม่จาก MIT และ Caltech เมื่อเร็ว ๆ นี้แสดงให้เห็นว่าผู้เล่นสามารถได้เปรียบโดยใช้สิ่งที่น่าประหลาดใจเป็นอย่างมากนั่นคือการพัวพันเชิงควอนตัม หรือ Quantum Entanglement
วิธีการเอาชนะในเกมแบล็คแจ็ค
ในแบล็คแจ็ค ผู้เล่นแต่ละคนในโต๊ะจะได้รับไพ่ที่หงายหน้าพร้อมกับไพ่คว่ำหน้า จากนั้นพวกเขาสามารถเลือกที่จะ “จั่วไพ่” หรือเรียกว่าการรับไพ่ใบที่สาม หรือ “หยุดไพ่” เพื่อให้ไพ่เข้าใกล้ 21 แต้มให้ได้มากที่สุด ดูเหมือนจะง่ายนะ แต่ผู้เล่นแบล็คแจ็คที่มีประสบการณ์ไม่เพียงแต่รู้ว่าต้องใส่ใจกับไพ่ที่พวกเขาได้รับ แต่ยังรวมถึงไพ่ที่หงายหน้าของฝ่ายตรงข้ามเช่นเดียวกับเจ้ามือ เพราะฉะนั้นจงเล่นอย่างสงบและรวบรวมไพ่ จากนั้นดูจำนวนเลข ซึ่งคุณต้องรู้กลยุทธ์และคณิตศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังเกมแบล็คแจ็ค แล้วคุณจะทำให้อัตราต่อรองของคุณดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
คุณสามารถก้าวไปอีกขั้นและนับไพ่ได้ การรู้ว่าไพ่ใดผ่านสำรับไปแล้วจะทำให้คุณรู้ว่าคุณจะได้รับไพ่อะไรในตาต่อไปซึ่งการทำงานร่วมกับทีมและอัตราต่อรองของคุณจะเพิ่มมากขึ้น นี่เป็นแนวคิดที่โด่งดังของกลุ่มนักศึกษาจาก MIT, Harvard และ Caltech และเป็นแรงบันดาลใจให้กับหนังสือ “Bringing Down the House” อีกด้วย
การเพิ่ม Quantum Entanglement หรือการพัวพันเชิงควอนตัมไปที่การผสมกัน
การพัวพันเชิงควอนตัมอาจเป็นหนึ่งในแนวคิดที่แปลกประหลาดที่สุดในฟิสิกส์สมัยใหม่ เมื่ออนุภาคที่พันกันสองอนุภาคไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในจักรวาลก็ตาม สามารถสื่อสารสถานะของพวกมันกับอีกอนุภาคได้ทันที สิ่งนี้นำไปสู่ข้อสรุปที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่งว่า การสื่อสารนี้ดูเหมือนจะ “เดินทาง” ได้เร็วกว่าความเร็วแสงซะอีก แต่สิ่งที่แปลกประหลาดคืออนุภาคที่พันกันนี้สามารถอยู่ได้ ซึ่งแสดงอยู่ในการทดลองที่คิดค้นโดย John Bell ในปี 1964
สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับแบล็คแจ็คอย่างไร?
ผู้เขียนบทความโดยบังเอิญจากทาง MIT และ Caltech ตระหนักว่าไพ่ที่แจกให้กับแต่ละคนมีความสัมพันธ์กัน เพราะพวกมันทั้งหมดมาจากสำรับเดียวกันและแต่ละชนิดมีไพ่เพียงใบเดียว ดังนั้นพวกเขาจึงถามว่า – มีการพัวพันอยู่ในการทำงานของมันหรือไม่?
พวกเขาตั้งชื่อบทความนั้นได้อย่างน่าขันว่า “Quantum Blackjack – หรือ – Can MIT Bring Down the House Again?”
โดยผลการทดลองแบล็คแจ็คแบบพันกันอันนี้ได้ตีพิมพ์ใน Physical Review A ซึ่งอธิบายถึงผู้เล่นสองคน ได้แก่ Alice และ Bob ที่ร่วมมือกันเพื่อเอาชนะเกมนี้ โดย Alice มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ Bob ชนะเกมนี้ และพวกเขาก็ได้เปรียบเทียบกลยุทธ์ทั้งสามข้อไว้ดังนี้
ข้อแรก Alice และ Bob นับไพ่ไปตามแบบแผน ข้อที่สอง Alice เพียงแค่แสดงไพ่ของเธอให้กับ Bob (นี่จะเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับ Bob) ข้อที่สามพวกเขาใช้ระบบควอนตัมเพื่อช่วยในการตัดสินว่าพวกเขาควรจะจั่วไพ่หรือหยุดไพ่
Alice จะจั่วไพ่ก่อน โดยใช้ระบบควอนตัมเพื่อบ่งบอกถึงการตัดสินใจของเธอว่าเธอควรเลือกไพ่ใบที่สามหรือไม่ จากนั้น Bob สามารถใช้ข้อมูลจากผลลัพธ์ของระบบควอนตัมพร้อมกับสิ่งที่ Alice ทำเพื่อบ่งบอกถึงกลยุทธ์ของเขาเอง ในกรณีนี้เขาไม่ได้รู้ไพ่ของ Alice โดยตรง แต่เขาได้รับข้อมูลจากระบบควอนตัมเพียงอย่างเดียว
น่าแปลกที่ระบบที่พันกันนี้ทำให้ Alice และ Bob ได้เปรียบเพียงเล็กน้อย (เล็กน้อยมาก) แต่นี่จะเป็นผลก็ต่อเมื่อมีไพ่เหลืออยู่ในสำรับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจจะไม่ได้ถูกใช้ในคาสิโนเร็ว ๆ นี้
โดย Joseph Formaggio ศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ หนึ่งในผู้เขียนบทความนี้กล่าวว่า“ มันต้องใช้นักลงทุนจำนวนมาก และฉันเดาว่าการพกคอมพิวเตอร์ควอนตัมไว้ในกระเป๋าเป้สะพายหลังของคุณอาจจะเป็นเคล็ดลับที่ใช้ได้ที่บ้าน เนื่องจากพวกเราคิดว่าในตอนนี้คาสิโนปลอดภัยจากการใช้วิธีนับแบบนี้อยู่นะ”
นอกเหนือจากเกมแล้ว การทดลองยังแสดงให้เห็นว่าระบบการพัวพันเชิงควอนตัมนี้จะสามารถปรากฏขึ้นในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างไรอีกด้วย