ผู้เล่นแบล็คแจ็คทุกคนต้องการหาข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าคู่ต่อสู้ใช่ไหมล่ะ?
คุณจะใช้กลยุทธ์และหลักคณิตศาสตร์ต่างๆก็ต่อเมื่อคุณเล่นพวกเกมปกติทั่วไป แต่คุณไม่รู้ตัวหรอกว่า เกมอื่น ๆเขา ได้มีการใช้ระบบที่ตั้งใจมากกว่า อย่างเช่น การนับไพ่ เข้ามาเกี่ยวด้วย
แต่คุณเคยคิดเกี่ยวกับการใช้การพัวพันเชิงควอนตัมไหม?
เอ่อ ไม่ครับ ซึ่งเราก็ไม่เคยคิดเหมือนกัน
ไม่ใช่แค่เรื่องของพล็อตฮอลลีวูดที่น่าเหลือเชื่อเพียงเท่านั้น แต่การใช้ทฤษฎีการพัวพันเชิงควอนตัมเพื่อเอาชนะอัตราได้เปรียบในการเล่นแบล็คแจ็คได้รับการศึกษาอย่างยาวนานไม่น้อยไปกว่าทฤษฎีบิ๊กวิกส์ที่ MIT เลย
และพวกเขาก็ควรจะรู้
โดยทีมแบล็คแจ็คของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังสามารถเอาชนะอัตราการได้เปรียบที่คาสิโนมายาวนานกว่าทศวรรษ โดยพวกเขาทำงานเป็นทีมเพื่อนับไพ่ ซึ่งภายหลังถูกสร้างเป็นหนังสือและสร้างแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์สองเรื่องในเวลาต่อมา
แต่การพัวพันเชิงควอนตัมนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นเพียงแค่แบบฝึกหัดสำหรับนักวิชาการเพื่อทำการทดสอบในการบรรยายและห้องปฏิบัติการเท่านั้น หากคุณรู้กฎพื้นฐานของแบล็คแจ็ค คุณอาจจะสามารถทำให้ทฤษฎีการพัวพันเชิงควอนตัมใช้งานได้ผลกับคุณก็ได้
ในงานชิ้นนี้ เราจะมาดูกันว่าการพัวพันเชิงควอนตัมนั้นจริงๆแล้วคืออะไร และเหตุใดจึงมีความสำคัญในแบล็คแจ็คขนาดนี้ และผู้เล่นสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ทุกๆวันจริงหรอ
การพัวพันเชิงควอนตัมหรือ Quantum Entanglement คือใคร?
เริ่มต้นด้วยหัวข้อที่สำคัญเลยคือการพัวพันเชิงควอนตัมคืออะไรกันแน่? งั้น
เราต้องมาเจาะลึกเข้าไปในอาณาจักรของกลศาสตร์ควอนตัมเพื่อหาคำตอบนี้กัน
การพัวพันเชิงควอนตัมเป็นคำที่ใช้อธิบายถึงวัตถุหรืออนุภาคที่แยกจากกันสองชิ้นที่ได้กลายมา ‘พัวพัน’ หรือ ‘สัมพันธ์’ ซึ่งกันและกันอย่างมากตามที่ MIT News กล่าวว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเหล่านี้แข็งแกร่งเกินกว่าที่จะกำหนดโดยกฎคลาสสิกของฟิสิกส์และความน่าจะเป็นได้”
นั่นหมายความว่า…พวกมันไม่ได้เป็นอิสระจากกันอย่างสิ้นเชิง แม้ว่ามันจะแยกจากกันแต่มันก็อาจจะสามารถแจ้งผลลัพธ์ของกันและกันได้
นอกจากนี้ พวกเรายังชอบคำอธิบายในนิตยสาร Forbes ซึ่งกล่าวว่าการพัวพันเชิงควอนตัมเป็น “แนวคิดที่แปลกประหลาดที่สุดอย่างหนึ่งในฟิสิกส์สมัยใหม่” ก่อนที่จะสรุปได้ว่ามันเป็น “อนุภาคที่พันกันสองอนุภาคไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในจักรวาลก็สามารถสื่อสารสถานะของพวกมันกับอีกอนุภาคหนึ่งทันที”
ดังนั้น ถ้าหากพวกเรามีวัตถุสองชิ้นที่แยกจากกันแต่มันสามารถเชื่อมต่อกันและสื่อสารกันได้ สิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อแบล็คแจ็คอย่างไร?
แน่นอนว่า ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับไพ่ที่คุณได้รับ … และความสัมพันธ์ระหว่างไพ่เหล่านั้นซึ่งได้รับอิทธิพลจากความจริงที่ว่าไพ่ทั้งหมดมาจากสำรับเดียวกันและไพ่แต่ละใบก็มีจำนวนจำกัดในตัวของมันเองอยู่แล้ว
แนวคิดของการพัวพันเกี่ยวข้องกับการเล่นหรือไม่? นักวิชาการของ MIT และ Caltech บางคนเพิ่งตัดสินใจค้นหาคำตอบจากคำถามนี้
การแจกไพ่จากสำรับเดียวกัน
ในการทดลองที่ถูกตีพิมพ์ในเดือนกรกฎาคม 2020 ใน Physical Review A นั้น ผู้เขียนได้ตรวจสอบข้อดีที่ได้รับจากการใช้กลยุทธ์ควอนตัมในเกมคาสิโนที่ยอดนิยมต่างๆ
โดยการใช้แนวคิดที่ว่า “การร่วมมือกันในการเล่นเกมของทั้งสองฝ่ายตามลำดับซึ่งได้รับการอนุญาตให้มีการสื่อสารแบบคลาสสิกเพียงเล็กน้อยจากผู้เล่นที่เริ่มเล่นก่อนไปยังผู้เล่นที่ได้เล่นเป็นคนที่สอง” พวกเขาอนุมานได้ว่า ผู้เล่นคนที่สองอาจได้เปรียบเล็กน้อยในท้ายที่สุด
ซึ่งแนวคิดนี้ได้รับการปฏิบัติจริงมาแล้ว โดยเหล่าผู้เล่นจะแบ่งปันแบบจำลองทางคณิตศาสตร์กัน ซึ่งพวกเขาขอให้ผู้อ่านจินตนาการว่าเป็น ‘กล่อง’ หรือวิธีการวัด เพื่อแจ้งตัวเลือกของพวกเขา และผู้เล่นคนที่สองจะใช้ทั้งตัวเลือกของตนเองตามระบบ ‘กล่อง’ เช่นกันกันกับตัวเลือกของผู้เล่นคนแรกเพื่อแจ้งการเริ่มเล่นหรือการขาดของอีกอันหนึ่ง
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างสถานการณ์สองสถานการณ์ซึ่งได้แก่ การที่ผู้เล่นคนที่หนึ่งแสดงไพ่ของเขาไปให้ผู้เล่นคนที่สองคนดูกับการนับไพ่(โดยปราศจากการสื่อสารกัน)นั้น ในบรรดาการเล่นแบล็คแจ็คมานับพันรอบ กลยุทธ์การพัวพันเชิงควอนตัมนี้ทำให้ผู้เล่นสองคนได้เปรียบ (แต่ก็ยังน้อยอยู่) มากกว่าการนับไพ่จริงๆ
ดังนั้น การพัวพันเชิงควอนตัมสามารถใช้ได้ผลกับคุณจริงไหม?
ทุกครั้งที่คุณไปที่โต๊ะในฐานะผู้เล่นแบล็คแจ็ค คุณจะทำการตัดสินใจว่าจะเก็บไพ่ที่เขาทิ้งมาหรือเก็บไพ่ใหม่เพื่อทำให้ขานั้นได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
จุดมุ่งหมายคือการมีไพ่ที่แต้มใกล้ 21 แต้มที่สุด แต่ห้ามเกินจากนั้นของทั้งฝั่งคู่แข่งและเจ้ามือ
ดังนั้นแน่นอนว่า ระบบใดๆก็ตามที่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่คุณในทางทฤษฎีแม้ว่าจะไม่ใช่ข้อมูลที่จับต้องได้ เช่น มูลค่าไพ่ที่แน่นอน แต่ระบบนั้นก็ควรมีผลต่อการเล่นของคุณและเพิ่มความได้เปรียบให้กับคุณได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรรู้คือผลลัพธ์จากการทดลองล่าสุดของ MIT นี้ยังคงทำให้ผู้เล่นได้เปรียบเหนือกว่าเจ้ามือเพียงเล็กน้อย
แม้ว่าสิ่งนี้อาจจะเกิดขึ้นเมื่อสำรับไพ่ของเจ้ามือเริ่มหมดลงไปทุกที ซึ่งนั่นก็สมเหตุสมผลนะถ้าคุณคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะสำรับที่เต็มกว่ามีความเป็นไปได้ที่ไพ่มันจะหลุดออกมามากกว่า
แต่คุณจะสามารถใช้ ‘ทฤษฎีการพัวพัน’ ของคุณเองในการเล่นเกมครั้งถัดไปได้โดยตกลงกับพันธมิตรในการใช้ระบบที่จะแจ้งทางเลือกของคุณได้หรือไม่?
Joseph Formaggio ผู้ร่วมเขียนงานชิ้นนี้ได้กล่าวกับทาง MIT News เพื่อให้เกิดผลกระทบสูงสุดว่า “มันต้องการนักลงทุนรายใหญ่มาก และฉันเดาว่าการพกคอมพิวเตอร์ควอนตัมไว้ในกระเป๋าเป้สะพายหลังของคุณอาจจะเป็นเคล็ดลับที่ใช้ได้ในบ้าน เนื่องจากพวกเราคิดว่าในตอนนี้คาสิโนปลอดภัยจากการใช้วิธีนับแบบนี้อยู่นะ”
ดังนั้นไม่ต้องเลย คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักฟิสิกส์แบล็คแจ็คของ MIT เพื่อที่จะใช้ทฤษฎีการพัวพันเชิงควอนตัมนี้ในเกมของคุณ
แต่คุณอาจจะต้องไปเจอกับพวกนักพนันกระเป๋าหนักในคาสิโนที่ใจปล้ำเพื่อที่จะคอยดูประโยชน์ของทฤษฎีนี้เวลาที่พวกเขาเล่น ซึ่งคุณจะต้องมีทั้งสูตรการเล่นและการสนับสนุนทางการเงินจำนวนมาก …
แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าคุณคิดว่าคุณพอใจกับวิธีของคุณ (และมันเป็นวิธีที่ฉลาดกว่าในหลักฟิสิกส์มากกว่าของเรา) งั้นคุณก็สามารถไปทดสอบความรู้และทักษะของคุณได้ที่คาสิโนแบล็คแจ็คออนไลน์ที่ดีที่สุดกันได้เลย
หากไม่มีอะไร คุณก็สามารถเล่นมันเพื่อความสนุกสนานได้